วันพุธที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2556

"ป้ายิน" ในความทรงจำแห่งการอำลา



....เสียงฝนพรายพร่ำอยู่นอกหน้าต่าง.เม็ดฝนขนาดเป้งกระแทกใส่กระจกใสเสียงดัง ป๊อกแป๊ก ตามด้วยหยดน้ำใสไหลเป็นแนวทอดลงตามความราบเรียบของแผ่นกระจก

....เป็นอีกครั้งของรอบการมาเยือนแห่งฤดูฝนฉ่ำที่ไม่เคยหยุดทำงาน

….. หลังฝนซา ฉันมักจะได้ไอเย็นชื้นสัมผัสปลายจมูกอุ่น และพร้อม ๆ กับกลิ่นความสดชื่่นที่ฝนหนาได้พัดพาเอากลุ่มไอเสียของรถ...และหมอกควันพิษ บนอากาศให้กลายสภาพเป็นขี้ผงลงไปกองกับพื้นดิน และแทนที่มันด้วยอากาศดี ๆ


….. หลายครั้งที่เสียงเม็ดฝนหล่นกระแทกสังกะสีดัง ปุงปัง ๆ  ..ช่างทำให้ความทรงจำในเวลาเด็กมันผุดขึ้นมาให้คิดถึงอยู่บ่อย ๆ

…. ฉันจำได้ว่า...สมัยเรียนอยู่โรงเรียนเก่ารั้วไม้ไผ่...ทางเดินพื้นไม้ตรงระเบียงอาคารชั้นสองนั้น แม้นมันจะดูเก่า..แต่ก็ถือว่าสะอาดสะอ้านเป็นมันวาว...จนแทบจะนอนเล่นได้สบาย ๆ ซึ่งบริเวณนี้ เด็ก ๆ มักใช้อาศัยนั่งเล่นกันบ่อย ๆ

และก็มีอยู่บ่อยครั้งที่เม็ดฝนขนาดใหญ่เทลงมาใส่แผ่นสังกะสีตรงระเบียงเสียงดังโครมครืน และหอบเอาฝนปนลมแรง จนเด็ก ๆ ต้องวิ่งกรูหนีฝนเข้าไปในห้องเรียน ปิดประตูไม้บานพับกันหนีฝนและลมโกรธกันโครมครามจ้าละหวั่น..
….

หลังมื้อเที่ยง....เข้าคาบเรียนบ่าย...ฝนยังตกอยู่ข้างนอก...ฉันเผลอฟุบหลับคาโต๊ะและต้องมีอันต้องสะดุ้งตื่นเพราะเพื่อนมันตบแขนดังฉาด!...ปาดน้ำลายเปียกข้างแก้ม...

“เฮ้ย...ป้ายินเข้าสอนแล้ว” เสียงเพื่อนรักกำชับเรียกสติและเตือนภัยใกล้หู

ถ้าเป็นคาบเรียนอื่น...ฉันอาจได้รับสินไหมเล็กๆ จำพวกเศษชอลก์เขียนกระดานดำ พุ่งใส่หัวกะบาลเป็นสัญญานปลุกก่อนเพื่อนจะเรียกด้วยซ้ำ แต่คาบนี้..เมื่อลืมตามองไปทีกระดานดำ ฉันกลับใบหน้าอมยิ้มเล็ก ๆ ที่เป็นรอยยิ้มที่เมตตา...และเข้าใจจากหญิงวัยเลยกลางคน

“หลับเถอะค่ะ...ถ้าง่วง.....ครูอนุญาตให้หลับซักงีบ...แล้วค่อยตื่นไปล้างหน้าล้างตา จะได้เรียนหนังสือมีสมาธิขึ้น”

เสียงนุ่ม ทุ้มต่ำของครูภาษาไทยในวัยอาวุโสที่พวกเราเรียกกันว่า “ป้ายิน” มักจะเป็นคำพูดที่ "นักงีบหลังเที่ยง" หลายคนอาจเคยประสบ

ภาพของป้ายิน...หรือคุณครูยินดี ที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงคือ ภาพของหญิงรูปร่างสันทัด ..การแต่งกายเรียบร้อยสมเป็นกุลสตรีไทย และที่สำคัญ ป้าครู ถือเป็นครูที่พูดจาสุภาพและใช้คำพูดทุกประโยคทุกคำกับเด็กทุกคนอย่างอ่อนโยนและเมตตา




"ป้ายิน”ถือเป็นครูที่เขียนหนังสือไทย..พูดภาษาไทย..สอนและเรียนรู้เรื่องวัฒนธรรมประเพณีกริยามารยาทของไทยที่เป็นต้นแบบที่ดีของครูภาษาไทยทุกกระเบียดนิ้ว

ป้ายิน..ท่านพักอยู่บ้านหลังเดียวกับครูเชาว์ ซึ่งเป็นบ้านพักรถไฟที่อยู่ใกล้กับโรงเรียน ..หลังโรงเรียนเลิก หรือแม้แต่วันหยุดเสาร์อาทิตย์ ฉันมักจะเห็น ป้ายินและครูเชาว์ นั่งคุยกันหน้าบ้านพักใต้ร่มไม้กันบ่อยครั้ง .. เพราะสองท่านคือ มิตรสหาย ทั้งร่วมอาชีพและนอกอาชีพ

จะว่าไป...ฉันก็ไม่ใช่นักเรียนดีเด่น...ที่จะมีดีกรีเรียนดีจนเป็นคนโปรดของคุณครูคนใดโดยจำเพาะ

...ดังนั้น บ่อยครั้งที่ความดื้อรั้น จะส่งผลให้ฉันได้รับตำแหน่ง “เกลียดนิยม”
และได้รับรางวัลจากฝ่ายปกครองอย่างครูเสกสรค์หรือแทบทุกคุณครูประจำวิชาอื่นด้วยไม้เรียวคนละสัก 2-3 ทีให้พอหลาบจำและเลิกอยากจะเป็นพวก “ขี้เกียจนิยม” กันเสียบ้าง

เรื่องโดนไม้เรียว...มันก็เรื่องขี้ผง นักรบอย่างฉันถ้าไม่มีบาดแผล...อย่าเพิ่งแส่ยอมตาย อะไรประมาณนั้น

แต่ที่ฉันจำไม่ได้ก็คือ..... ฉันจำไม่ได้เลยว่า ฉันเคยโดน “ป้ายิน” ตีบ้างแล้วหรือยัง?

ใช่....เพราะถ้าใครรู้จัก “ป้ายิน” จะทราบว่า ป้ายินเธอไม่เคยต้องใช้และไม่นิยมไม้เรียว กับเด็กคนไหน.....

.. “ป้ายิน” หรือ คุณครูยินดี สุจริตธนารักษ์ ยอดครูที่ต้องบันทึกไว้ในหัวใจฉัน....คุณครูผู้สอนให้ฉันรู้วิธีที่จะเขียนอะไรออกมาจากหัวใจได้อย่างมีอิสรภาพแห่งจินตนาการ...ผู้กำชับให้เด็ก ๆ รวมทั้งฉันยึดมั่นในความเป็นคนไทยที่รู้รักความเป็น “ไทย” มาจวบจนวันนี้.......





แต่วันนี้...”ป้ายิน” เธอจากไปแล้ว!

“ป้ายิน” เป็นคนพื้นเพนครศรีธรรมราช..ใกล้บ้านครูคือพระบรมมหาธาตุที่ยืนยันความเป็นดินแดนแห่งชาวพุทธผู้เลื่อมใสในพุทธศาสนาอย่างมั่นคงจึงไม่ต้องสงสัยในความเป็นผู้เชื่อมั่นในวัฎฎะสังสารแห่งวิถีพุทธ จึงมีอยู่เต็มเปี่ยมหัวใจ “ป้ายิน”

กฎไตรลักษณ์ ในทางพุทธที่ว่าด้วย ทุกสรรพสิ่งล้วน เป็น อนิจจัง, ทุกขัง , อนัตตา .. เกิดขึ้นทุกวันและทุกคน ไม่เว้นสถาบันรั้วไม้ไผ่เก่า ๆที่ฉันรัก ก็มีอันต้องดับลง...ไม่เที่ยง

การจากไปของ “ป้ายิน” ก็เป็นไปตามกฎอนิจจังที่ใครก็ต้องมีวันนั้น......ในวันหนึ่ง!
แต่การจากไปของ "ป้ายิน" ฉันถคิดว่าคิดว่า...เธอจากไปแต่ร่างกาย เท่านั้น

เพราะภาพงดงาม...และสีสันของชีวิตในยามที่เธอดำรงตนในโลกใบนี้ ยังเป็นภาพฉายที่ไม่มีวันลืมในความทรงจำของฉัน

และที่สำคัญมันจะเป็นภาพของครูผู้งดงาม....ครูผู้ควรค่าแก่การอภิวาท และครูผู้เป็น “ครูนิรันดร์” ของฉัน ..ตลอดไป.

ขอดวงวิญญาณครูยินดี สุจริตธนารักษ์ จงสถิติ ณ สัมปรายภพอันประเสริฐที่สุดด้วยเทอญ.


กราบเท้าอำลาครูด้วยมุทิตาจิตและความอาลัยยิ่ง.

3 ความคิดเห็น:

  1. `กราบคาราวะครูยินดีนะครับ.สู่สวรรค์ด้วย

    ตอบลบ
  2. ป้ายิน คือญาติผู้ใหญ่ที่เคารพรักมาโดยตลอด จำได้ว่าทุกๆเช้า มีหน้าที่ต้องไปซื้อโกปี้ออ ให้กับกลุ่มของแม่ (ครูเฉลิม) อันมีป้าเล็ก (ครูสวนีย์). ป้ายิน(ครูยินดี). น้าเชาว์ (ครูเชาวนีย์). และน้าสาย. (ครูสายหยุด). ทุกท่านจะมีโต๊ะใหญ่นั่งรวมตัวกันที่อาคารชั้น ป.1ก ป.1 ข. ป.1ค. พูดถึง ป.1ค. ยังมีครูอีกท่านี่นึกขึ้นมาได้ ครูครูพี่วรรณ. จะประจำชั้น ป.1ค. มาตลอด. ลายมือสวยมากๆ

    ตอบลบ
  3. กราบป้ายินด้วยความระลึกถึงครับ

    ตอบลบ