....เสียงฝนพรายพร่ำอยู่นอกหน้าต่าง.เม็ดฝนขนาดเป้งกระแทกใส่กระจกใสเสียงดัง ป๊อกแป๊ก ตามด้วยหยดน้ำใสไหลเป็นแนวทอดลงตามความราบเรียบของแผ่นกระจก
....เป็นอีกครั้งของรอบการมาเยือนแห่งฤดูฝนฉ่ำที่ไม่เคยหยุดทำงาน
….. หลังฝนซา ฉันมักจะได้ไอเย็นชื้นสัมผัสปลายจมูกอุ่น และพร้อม ๆ กับกลิ่นความสดชื่่นที่ฝนหนาได้พัดพาเอากลุ่มไอเสียของรถ...และหมอกควันพิษ บนอากาศให้กลายสภาพเป็นขี้ผงลงไปกองกับพื้นดิน และแทนที่มันด้วยอากาศดี ๆ
….. หลายครั้งที่เสียงเม็ดฝนหล่นกระแทกสังกะสีดัง ปุงปัง ๆ ..ช่างทำให้ความทรงจำในเวลาเด็กมันผุดขึ้นมาให้คิดถึงอยู่บ่อย ๆ
…. ฉันจำได้ว่า...สมัยเรียนอยู่โรงเรียนเก่ารั้วไม้ไผ่...ทางเดินพื้นไม้ตรงระเบียงอาคารชั้นสองนั้น แม้นมันจะดูเก่า..แต่ก็ถือว่าสะอาดสะอ้านเป็นมันวาว...จนแทบจะนอนเล่นได้สบาย ๆ ซึ่งบริเวณนี้ เด็ก ๆ มักใช้อาศัยนั่งเล่นกันบ่อย ๆ
และก็มีอยู่บ่อยครั้งที่เม็ดฝนขนาดใหญ่เทลงมาใส่แผ่นสังกะสีตรงระเบียงเสียงดังโครมครืน และหอบเอาฝนปนลมแรง จนเด็ก ๆ ต้องวิ่งกรูหนีฝนเข้าไปในห้องเรียน ปิดประตูไม้บานพับกันหนีฝนและลมโกรธกันโครมครามจ้าละหวั่น..
….
หลังมื้อเที่ยง....เข้าคาบเรียนบ่าย...ฝนยังตกอยู่ข้างนอก...ฉันเผลอฟุบหลับคาโต๊ะและต้องมีอันต้องสะดุ้งตื่นเพราะเพื่อนมันตบแขนดังฉาด!...ปาดน้ำลายเปียกข้างแก้ม...
“เฮ้ย...ป้ายินเข้าสอนแล้ว” เสียงเพื่อนรักกำชับเรียกสติและเตือนภัยใกล้หู
ถ้าเป็นคาบเรียนอื่น...ฉันอาจได้รับสินไหมเล็กๆ จำพวกเศษชอลก์เขียนกระดานดำ พุ่งใส่หัวกะบาลเป็นสัญญานปลุกก่อนเพื่อนจะเรียกด้วยซ้ำ แต่คาบนี้..เมื่อลืมตามองไปทีกระดานดำ ฉันกลับใบหน้าอมยิ้มเล็ก ๆ ที่เป็นรอยยิ้มที่เมตตา...และเข้าใจจากหญิงวัยเลยกลางคน
“หลับเถอะค่ะ...ถ้าง่วง.....ครูอนุญาตให้หลับซักงีบ...แล้วค่อยตื่นไปล้างหน้าล้างตา จะได้เรียนหนังสือมีสมาธิขึ้น”
เสียงนุ่ม ทุ้มต่ำของครูภาษาไทยในวัยอาวุโสที่พวกเราเรียกกันว่า “ป้ายิน” มักจะเป็นคำพูดที่ "นักงีบหลังเที่ยง" หลายคนอาจเคยประสบ
ภาพของป้ายิน...หรือคุณครูยินดี ที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงคือ ภาพของหญิงรูปร่างสันทัด ..การแต่งกายเรียบร้อยสมเป็นกุลสตรีไทย และที่สำคัญ ป้าครู ถือเป็นครูที่พูดจาสุภาพและใช้คำพูดทุกประโยคทุกคำกับเด็กทุกคนอย่างอ่อนโยนและเมตตา
"ป้ายิน”ถือเป็นครูที่เขียนหนังสือไทย..พูดภาษาไทย..สอนและเรียนรู้เรื่องวัฒนธรรมประเพณีกริยามารยาทของไทยที่เป็นต้นแบบที่ดีของครูภาษาไทยทุกกระเบียดนิ้ว
ป้ายิน..ท่านพักอยู่บ้านหลังเดียวกับครูเชาว์ ซึ่งเป็นบ้านพักรถไฟที่อยู่ใกล้กับโรงเรียน ..หลังโรงเรียนเลิก หรือแม้แต่วันหยุดเสาร์อาทิตย์ ฉันมักจะเห็น ป้ายินและครูเชาว์ นั่งคุยกันหน้าบ้านพักใต้ร่มไม้กันบ่อยครั้ง .. เพราะสองท่านคือ มิตรสหาย ทั้งร่วมอาชีพและนอกอาชีพ
จะว่าไป...ฉันก็ไม่ใช่นักเรียนดีเด่น...ที่จะมีดีกรีเรียนดีจนเป็นคนโปรดของคุณครูคนใดโดยจำเพาะ
...ดังนั้น บ่อยครั้งที่ความดื้อรั้น จะส่งผลให้ฉันได้รับตำแหน่ง “เกลียดนิยม”
และได้รับรางวัลจากฝ่ายปกครองอย่างครูเสกสรค์หรือแทบทุกคุณครูประจำวิชาอื่นด้วยไม้เรียวคนละสัก 2-3 ทีให้พอหลาบจำและเลิกอยากจะเป็นพวก “ขี้เกียจนิยม” กันเสียบ้าง
เรื่องโดนไม้เรียว...มันก็เรื่องขี้ผง นักรบอย่างฉันถ้าไม่มีบาดแผล...อย่าเพิ่งแส่ยอมตาย อะไรประมาณนั้น
แต่ที่ฉันจำไม่ได้ก็คือ..... ฉันจำไม่ได้เลยว่า ฉันเคยโดน “ป้ายิน” ตีบ้างแล้วหรือยัง?
ใช่....เพราะถ้าใครรู้จัก “ป้ายิน” จะทราบว่า ป้ายินเธอไม่เคยต้องใช้และไม่นิยมไม้เรียว กับเด็กคนไหน.....
.. “ป้ายิน” หรือ คุณครูยินดี สุจริตธนารักษ์ ยอดครูที่ต้องบันทึกไว้ในหัวใจฉัน....คุณครูผู้สอนให้ฉันรู้วิธีที่จะเขียนอะไรออกมาจากหัวใจได้อย่างมีอิสรภาพแห่งจินตนาการ...ผู้กำชับให้เด็ก ๆ รวมทั้งฉันยึดมั่นในความเป็นคนไทยที่รู้รักความเป็น “ไทย” มาจวบจนวันนี้.......
แต่วันนี้...”ป้ายิน” เธอจากไปแล้ว!
“ป้ายิน” เป็นคนพื้นเพนครศรีธรรมราช..ใกล้บ้านครูคือพระบรมมหาธาตุที่ยืนยันความเป็นดินแดนแห่งชาวพุทธผู้เลื่อมใสในพุทธศาสนาอย่างมั่นคงจึงไม่ต้องสงสัยในความเป็นผู้เชื่อมั่นในวัฎฎะสังสารแห่งวิถีพุทธ จึงมีอยู่เต็มเปี่ยมหัวใจ “ป้ายิน”
กฎไตรลักษณ์ ในทางพุทธที่ว่าด้วย ทุกสรรพสิ่งล้วน เป็น อนิจจัง, ทุกขัง , อนัตตา .. เกิดขึ้นทุกวันและทุกคน ไม่เว้นสถาบันรั้วไม้ไผ่เก่า ๆที่ฉันรัก ก็มีอันต้องดับลง...ไม่เที่ยง
การจากไปของ “ป้ายิน” ก็เป็นไปตามกฎอนิจจังที่ใครก็ต้องมีวันนั้น......ในวันหนึ่ง!
แต่การจากไปของ "ป้ายิน" ฉันถคิดว่าคิดว่า...เธอจากไปแต่ร่างกาย เท่านั้น
เพราะภาพงดงาม...และสีสันของชีวิตในยามที่เธอดำรงตนในโลกใบนี้ ยังเป็นภาพฉายที่ไม่มีวันลืมในความทรงจำของฉัน
และที่สำคัญมันจะเป็นภาพของครูผู้งดงาม....ครูผู้ควรค่าแก่การอภิวาท และครูผู้เป็น “ครูนิรันดร์” ของฉัน ..ตลอดไป.
ขอดวงวิญญาณครูยินดี สุจริตธนารักษ์ จงสถิติ ณ สัมปรายภพอันประเสริฐที่สุดด้วยเทอญ.
กราบเท้าอำลาครูด้วยมุทิตาจิตและความอาลัยยิ่ง.
`กราบคาราวะครูยินดีนะครับ.สู่สวรรค์ด้วย
ตอบลบป้ายิน คือญาติผู้ใหญ่ที่เคารพรักมาโดยตลอด จำได้ว่าทุกๆเช้า มีหน้าที่ต้องไปซื้อโกปี้ออ ให้กับกลุ่มของแม่ (ครูเฉลิม) อันมีป้าเล็ก (ครูสวนีย์). ป้ายิน(ครูยินดี). น้าเชาว์ (ครูเชาวนีย์). และน้าสาย. (ครูสายหยุด). ทุกท่านจะมีโต๊ะใหญ่นั่งรวมตัวกันที่อาคารชั้น ป.1ก ป.1 ข. ป.1ค. พูดถึง ป.1ค. ยังมีครูอีกท่านี่นึกขึ้นมาได้ ครูครูพี่วรรณ. จะประจำชั้น ป.1ค. มาตลอด. ลายมือสวยมากๆ
ตอบลบกราบป้ายินด้วยความระลึกถึงครับ
ตอบลบ