วันพฤหัสบดีที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2555

"เก่ากะลา" ของ นายจักรวาล อินประดับ


"ไอ้จักกะตูด!!....". นี่เวลาอะไร ทำไมมาสายหยั่งงี้......แล้วในปากนั่นน่ะเคี้ยวอะไร!!?  เสียงป้าเหลิม หรือครูเฉลิม พร้อมกับไม้เรียวในมือ ยืนคุมอยู่ที่หน้าประตูทางเข้าโรงเรียน.
เกือบเก้าโมงเช้า.. ทุกอย่างบนลานเสาธง ว่างเปล่า เพราะเด็กทุกคนเริ่มเรียนคาบแรกแล้ว...

“มู๋อ๊อตอั๊บ” เสียงอู้อี้ตอบจากเด็กชายรูปร่างผอมแกร๋น. นุ่งกางเกงของพี่ชายที่ต้องคาดเข็มขัดเกือบถึงหน้าอก มือหอบกระเป๋าหนังสือพะรุงพะรัง มือซ้ายหิ้วปิ่นโตขนาดเขื่องสำหรับมื้อกลางวันที่ต้องกันกันในหมู่พี่น้องหลายคน
“หมูทอด!” เสียงป้าเหลิม ถามย้ำ เพื่อให้แน่ชัดว่า สิ่งที่อยู่ในปากและเคี้ยวมันตั้งแต่เดินออกจากบ้าน ซึ่งเป็นบ้านพักรถไฟห่างจากโรงเรียนไปราวกิโลเมตร จนบัดนี้ มันก็ยังคงอยู่ในปาก

“ควั่บ ๆ” เสียงไม้เรียวฟาดก้นพอเป็นพิธีสองที พร้อมเสียงหัวเราะอย่างอารมณ์ดีตามหลัง สำหรับนักเรียนโข่ง ตัวก๋าอย่าง นายจักรวาล อินประดับ

จักรวาล ที่ป้าเหลิมมักเรียกว่า “จักกะตูด” ถือเป็นศิษย์เก่าที่อยู่สงขลาวัฒนามาตั้งแต่รุ่นพี่มารุ่นหลาน และอยู่มาตั้งแต่ประถมยันจบมัธยม

ด้วยความเก่งกาจสามารถเกินเด็กทั่วไปจะทำกัน  ทำให้ จักรวาล มักถูกคุณป้าสมใจให้ฉายาประจำว่า “เก่ากะลา”

วันนี้ จักรวาล คนเก่า(กะลา) คนเดิม กลายเป็นผู้ใหญ่วัยเลยวัยผมหงอก เพราะมันเล่นหมดหัวไปตั้งแต่ยังไม่ทันเริ่มหงอกดี ท่าทีดูขึงขังแต่ยังดูพะรุงพะรังคล้าย ๆ พวกขาดหุ้น(เหมือนเดิม)
“จักกะตูด” ของป้าเหลิม กลายเป็น ช่างที่ซ่อมรถ(ไฟ) ราคาหลายร้อยล้าน อยู่การรถไฟแห่งประเทศไทย  เพื่อนคนไหนอยากที่ยังข้องใจว่า

1. เหตุใดที่ต้องเคี้ยว(เอื้อง)หมู ได้เป็นวัน ๆ ?
2. ศาลพระภูมิที่บ้านพักรถไฟ ท่านทำอะไรให้ข้องใจจึงต้องใช้หัวไปชนศาลท่านจนพัง!?

สองคำถามคาใจ อยากรู้ แวะไปถามที่ได้ โรงรถจักรหาดใหญ่ แต่มีข้อแม้....ถ้าหาไม่เจอ ลองเหลือบดูแถว ๆ ใต้โบกี้รถไฟ อาจเห็นหมอนี่นอนหลับเคี้ยวหมูอุตุอยู่ก็ได้....ฮา

2 ความคิดเห็น: